บทคัดย่อ
ผู้วิจัยได้วิจัยตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย ดังนี้
๑. เพื่อศึกษาแนวคิดเรื่องนิรามิสสุขในพุทธปรัชญาเถรวาท
๒. เพื่อศึกษาแนวคิดเรื่องความสุขตามแนวปรัชญาอสุขนิยมแบบปัญญานิยม
๓. เพื่อศึกษาเปรียบเทียบแนวคิดเรื่องนิรามิสสุขในพุทธปรัชญาเถรวาทกับความสุขตามแนวปรัชญาอสุขนิยมแบบปัญญานิยม
จากการศึกษาวิจัยพบว่านิรามิสสุขในพุทธปรัชญาเถรวาทนั้นหมายถึง ความสุขที่ไม่ต้องอิงอาศัยสิ่งใดเป็นความสุขที่สามารถสร้างขึ้นเองได้ เป็นอิสระตามสภาวะวิสัย ได้แก่ ฌานสุข และ นิพพานสุข ส่วนความสุขตามแนวคิดอสุขนิยมแบบปัญญานิยม คือ ความสุขทางจิตใจ สำหรับความสุขทางร่างกายไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด ถือว่าการแสวงหาความสุขสบายให้แก่ร่างกายเป็นของต่ำ ความสุขทางด้านจิตใจต่างหากที่ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ด้วยการใช้ปัญญาในการแสวงหาคุณธรรมเพื่อให้เข้าถึงสัจธรรมความจริง และคุณธรรมทางปัญญา การกระทำของมนุษย์ที่สอดคล้องตามคุณธรรมทางศีลธรรมและคุณธรรมทางปัญญา ย่อมนำไปสู่ความสุขเสมอ ชีวิตมนุษย์ที่มีการกระทำโดยใช้คุณธรรมจะต้องพบกับความสุขในปัจจุบัน ดังนั้นชีวิตที่มีความสุขเกิดจากการไตร่ตรองพิจารณา เป็นชีวิตที่สอดคล้องกับเหตุผล เพราะว่าธรรมชาติของมนุษย์นั้นมุ่งสู่สิ่งที่ดีที่สุด (Supreme Good) สำหรับตัวมนุษย์มีการพัฒนา จิตให้มีความสมบูรณ์ในตัวเอง (Self - Sufficiency) ซึ่งอยู่บนทางสายกลางไม่มากไปหรือน้อยไป
จากการเปรียบเทียบนิรามิสสุขตามทรรศนะพุทธปรัชญาเถรวาทกับความสุขตามแนวอสุขนิยมแบบปัญญานิยมพบว่า นิรามิสสุขกับความสุขตามแนวอสุขนิยมแบบปัญญานิยม ต่างถือว่า ความสุขสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ด้วยการทำความดีที่เกิดจากปัญญาที่ไตร่ตรองด้วยเหตุผล ย่อมส่งผลให้จิตใจนั้นเกิดความสุขไปด้วย แต่ที่แตกต่างกัน คือ นิรามิสสุขในพุทธปรัชญาเถรวาทนั้น เกิดจากการปฏิบัติตามสัจธรรมตามความเป็นจริง ไม่อิงอามิส เกิดขึ้นได้จากปฏิบัติตามคำสอนในพุทธปรัชญา เมื่อบุคคลเรียนรู้ปฏิบัติตามแล้วย่อมทำให้ได้ผล คือเข้าสู่นิพพานสุข สำหรับความสุขตามแนวอสุขนิยมแบบปัญญานิยม เกิดขึ้นจากการคิดด้วยเหตุผล ไม่ได้ปฏิบัติตาม เพื่อรู้ถึงแก่นแท้ของสัจธรรม
ดาวน์โหลด |