คุณธรรมของพระโพธิสัตว์เวสสันดร
โดย อุตฺตรเมธีภิกขุ
คุณธรรม คือเครื่องหมายที่วัดคุณค่าความดีงามที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ โดยส่วนมากมนุษย์เรานั้นปรารถนาที่อยากจะมีคุณธรรมในตัวเอง เพราะถ้าบุคคลใดมีคุณธรรมประจำใจเรา จะเป็นมนต์เสนห์ให้กับชีวิตตนเองและคนที่อยู่รอบข้างพลอยได้รับความสุขไปด้วย โดยทั่วไปแล้วมนุษย์เรามีคุณธรรมพื้นฐานอยู่ในจิตใจอย่างน้อยสามประการ ประการที่หนึ่งคือ การเอื้อเฟื้อช่วยเหลือคน ประการที่สองคือมีระเบียบวินัย ประการที่สามคือ มีไมตรีจิตมิตรภาพที่ดีต่อกัน นักปราชญ์ท่านกล่าวว่า
เกิดเป็นคนควรศึกษาหาดีเถิด ดีจะเกิดสุกก่อต่อเป็นผล
ดีที่หนึ่งเอื้อเฟื้อช่วยเหลือคน ดีที่สองตั้งตนตามวินัย
ดีที่สามไมตรีมีในจิต คิดเป็นมิตรจิตกว้างกระจ่างใส
ถ้าทำดีนี้จบครบสามนัย จะก่อให้สุกเกิดเพลิดพลิ้งพลัน
แต่ถ้าเราพูดถึงความดีหรือคุณธรรมของพระโพธิสัตว์แล้ว พระโพธิสัตว์เวสสันดรนั้นมีคุณธรรมที่ยากที่มนุษย์ธรรมดาอย่างเราท่านทั้งหลายจะพึ่งมีได้ คุณธรรมของพระโพธิสัตว์เวสสันดรนั้นคือ
1.ให้ในสิ่งที่บุคคลให้ได้ยาก
2.ทำในสิ่งที่บุคคลทำได้ยาก
3.ทนในสิ่งที่บุคคลทนได้ยาก
4.ชนะในสิ่งที่บุคคลชนะได้ยาก
5.ละในสิ่งที่บุคคลละได้ยาก
ประการแรก ให้ในสิ่งที่บุคคลให้ได้ยากนั้น พระโพธิสัตว์เวสสันดรเป็นเนติแบบอย่างของยอดนักเสียสละของโลก เป็นนักให้ที่ยิ่งใหญ่ เพราะพระองค์ยอมสละความสุขทั้งประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวมยากที่จะหาบุคคลใดๆ เปรียบได้ เพราะพระเวสสันดรนั้นให้เสียสละ ช้างประจำบ้านเมืองเป็นทาน ลูกอันเป็นสุดที่รักแก่พราหม์ชูชก ให้ภรรยาสุดที่รักยิ่งของตนป็นทาน และยอมเสียสละอวัยวะและชีวิตของตนเอง เพื่อให้ได้ความสุขที่ตนเองปรารถนา
ประการที่สอง ทำในสิ่งที่บุคคลทำได้ยาก การกระทำทิ่มองเห็นประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก โดยไม่ได้คำนึงถึงตนเองเป็นสำคัญนั้น ยากที่จะหาผู้ใดเสมือนได้ ดังเช่นพระโพธิสัตว์เวสสันดรพระองค์ทรงทำเพื่อหวังให้มนุษยโลกนี้ได้พบกับความสว่างทางแห่งการดำเนินชีวิตในหนทางที่ถูกต้องได้
ประการที่สาม ทนในสิ่งที่บุคคลทนได้ยาก พระโพธิสัตว์เวสสันดร พระองค์ทนตรากตรำ ทนเจ็บใจ ทนเจ็บแค้นที่ถูกไล่ออกจากเมือง หนีอยู่ป่าเขาลำเนาไพร ทิ้งชีวิตที่สะดวกสบาย มุ่งหาสัจธรรมความจริง โดยที่ไม่คำนึงถึงความยากลำบากใด ๆ ถึงแม้จะฉันมันและเผือกเป็นอาหารก็ตาม
ประการที่สี่ ชนะในสิ่งที่บุคคลชนะได้ยาก พระโพธิสัตว์เวสสันดรได้ชนะใจตนเอง เพราะตลอดเวลาแห่งการเสวยพระชาติเป็นเวสสันดรนั้น ต้องมีปัญหาอุปสรรคนานัปประการ แต่พระองค์ไม่คิดหวั่นไหว ต่อคำนินทาและคำสรรเสริญ ดุจดั่งหินผาที่แข็งแกร่ง
ประการสุดท้าย ละสิ่งที่บุคคลละได้ยาก ละความสุขส่วนตัว ละความเห็นแก่ตัว ละความตระหนี่ที่จะพึงเกิดแก่พระองค์เอง ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายไม่ขวนขวายหาความสุขทางโลกียวิสัยแฉกเช่นสามัญชน แต่มุ่งหาโลกุตตระสุข นำผลให้พระองค์กลายเป็นมหาบุรุษที่ยิ่งใหญ่ในโลก
ดังนั้น ตัวละครในเวสสันดรชาดก มีพระนางมัทรี เป็นแบบอย่างภรรยาที่เป็นกัลยาณมิตรต่อสามี คอยเอาใจใส่ หนุนสามีให้ถึงเป้าหมายชีวิตอันประเสริฐที่สามีตั้งไว้ พระชาลีกัณหา เป็นแบบอย่างลูกที่ประเสริฐเชื่อฟังพ่อแม่ พราหมณ์ชูชก เป็นตัวอย่างของคนที่ยึดติดในกาม มักมากไม่รู้จักความพอดี พรานเจตบุตร เป็นตัวอย่างของคนดีแต่ไม่มีความเฉลียวฉลาด กษัตริย์เจตราช เป็นตัวอย่างของเพื่อนแท้ พร้อมที่จะช่วยเหลือเพื่อนทุกยาม มีน้ำใจไม่ทอดทิ้งกัน และชาวเมืองกลิงครัฐ เป็นตัวอย่างของกระแสค่านิยม ซึ่งบางอย่างไม่ถูกต้องเสมอไป เพราะฉะนั้นถ้าหากมนุษย์เราได้ยึดเอาตัวอย่างของตัวละครในเวสสันดรชาดกมาเป็นคติสอนเตือนใจตัวเองแล้ว ในฐานะปุถุชนธรรมดา อย่างน้อยคนในสังคมนี้มีคุณธรรมสักครึ่งหนึ่งของพระโพธิสัตว์เวสสันดร สังคมและโลกใบเล็ก ๆ ใบนี้คงจะเต็มไปด้วยความสุข เพราะคนในสังคมนี้มีทานบารมีและขันติบารมี ซึ่งเป็นคุณธรรมอันเต็มเปี่ยมในจิตใจของเราท่านทั้งหลายนั่นเอง
หนังสืออ้างอิง
-ประเพณีชีวิต พระพิจิตรธรรมพาที (ชัยวัฒน์ ธมฺมวฑฺฒโน)
|