ความนำ ในคัมภีร์อรรถกถาธรรมบท ได้ปรากฏเรื่องราวเกี่ยวกับความรักหลากหลายมิติ และที่น่าสนใจคือ ในวรรคหนึ่ง (จากจำนวน ๒๖ วรรค) พระอรรถกถาจารย์ได้บันทึกคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เกี่ยวข้องกับความรักในแง่มุมต่างๆ โดยใช้อุปปัตติเหตุ คือ เหตุเกิดของเรื่อง เป็น โครงเรื่อง ใช้เวยยากรณภาษิตร้อยกรองผสมร้อยแก้ว มีเหตุการณ์ สถานที่ ตัวบุคคล เล่าเรื่องราวอธิบายธรรม มีคาถาธรรมบทสอดแทรกไว้ โดยใช้ชื่อว่า “ปิยวรรค” ดังนั้นบทความ ชิ้นนี้จึงมุ่งหาคำตอบถึงแง่มุมของความรักที่ซ่อนเร้นในคัมภีร์นี้นิยามความหมายของความรัก พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ได้ให้ความหมายของคำว่ารักไว้ว่า เป็นคำกริยา มีนิยามว่า “ชอบอย่างผูกพันพร้อมด้วยชื่นชมยินดี” เมื่อกล่าวตามความหมายนี้ ในคัมภีร์ อรรถกถาธรรมบทพระอรรถกถาจารย์ได้ให้นิยามของความรักในหลายแง่มุม และแต่ละแง่มุม ได้สะท้อนถึงอานุภาพของความรักทั้งในแง่บวกและแง่ลบแตกต่างกันออกไป ซึ่งเราสามารถเห็น ความแตกต่างนี้ได้อย่างชัดเจนหากแบ่งความรักออกเป็นประเภทต่างๆ โดยใช้คู่กรณีของความ รักเป็นเกณฑ์ คือ ๑) ความรักต่อบุคคล เช่น ความรักต่อทายาท (เช่น รักที่พ่อแม่มีให้กับลูกผู้ซึ่งตนให้กำเนิด) ความรักต่อบุพการี (เช่น รักที่ลูกมีต่อพ่อแม่) ความรักต่อญาติพี่น้อง (เช่น รัก ที่มีระหว่างญาติพี่น้อง) ความรักต่อเพศตรงข้าม (เช่น รักที่อาจมีอารมณ์ และ/หรือ ความรู้สึก ทางเพศมาเกี่ยวข้องหรือไม่ก็ได้) ความรักต่อเพื่อน (เช่น รักที่มีระหว่างผองเพื่อน) ๒) ความรักดูเนื้อหาฉบับเต็ม